ช่วยลูกยังไงดี หากลูกโดน Bully

ช่วยลูกยังไงดี หากลูกโดน Bully

HIGHLIGHTS:

  • Bully คือ พฤติกรรมการรังแก ทั้งทางร่างกาย การพูดจา กดดัน ทำให้ผู้อื่นเกิดความรู้สึกแย่ เกิดขึ้นทั้งในโรงเรียนหรือพี่น้องบ้านเดียวกัน ทำให้ลูกอาจไม่ยอมไปโรงเรียน หรือไม่อยากเข้าสังคม
  • บาดแผล ร่องรอยฟกช้ำ รวมถึงลูกดูเครียด ซึม ชอบเก็บตัว มีพฤติกรรมไม่ค่อยพูดถึงเพื่อน ไม่เล่าเรื่องที่โรงเรียน อาจแสดงว่าลูกถูกBully
  • พ่อแม่ต้องรีบหาข้อมูลให้ชัดเจน ถามลูก คุยกับครูหรือพ่อแม่อีกฝ่าย และรีบปรึกษาหมอ เพื่อหาทางแก้ไขได้ตรงจุด

Bully คือ การกลั่นแกล้งหรือความก้าวร้าว ไม่ว่าจะเป็นการรังแกทางด้านร่างกาย ทำร้าย ใช้กำลัง พูดจาไม่ดี กดดัน ทำให้ผู้อื่นเกิดความรู้สึกแย่ เด็กที่โดนเพื่อนรังแกด้วยพฤติกรรมไม่ว่าจะทั้งในโรงเรียนหรือแม้กระทั่งพี่น้องที่อยู่บ้านเดียวกัน ทำให้สุขภาพจิตเสีย นอกจากจะส่งผลโดนตรงกับเด็กแล้วยังส่งผลทำให้พ่อแม่เกิดความเครียด เพราะอาจทำให้ลูกไม่ยอมไปโรงเรียน และไม่อยากเข้าสังคม  ในปัจจุบันโลกที่เปลี่ยนไป Cyberbullying” หรือการกลั่นแกล้งทางโซเชียล ก็มีอิทธิพลทำร้ายเด็กๆ อยู่ในทุกวันนี้เช่นกัน

สังเกตุอย่างไร ว่าเด็กๆ เริ่มถูกกลั่นแกล้ง หรือโดน Bully

  • มีร่องรอย หรือแสดงอาการเจ็บตัวจากการโดนทำร้าย
  • ไม่ค่อยพูดถึงเพื่อนๆ หรือเล่ากิจกรรมที่โรงเรียน
  • เครียด มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ขี้หงุดหงิด
  • ซึม ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว
  • ปวดท้อง เวียนหัว ไม่ยอมกินข้าว
  • ฝันร้าย ฉี่รดที่นอนบ่อยๆ

ซึ่งพ่อแม่ต้องระวังและสังเกตอย่างมาก เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงในภายหน้าได้ นั่นคือ เด็กจะมีพฤติกรรมที่รุนแรง

ดังนั้น ถ้าพบเหตุการณ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้ ให้พ่อแม่รีบหาสาเหตุว่าลูกกำลัง Bully ใคร หรือกำลังโดน บูลลี่ หรือไม่

  • คุณครูแจ้งว่ามีปัญหาที่โรงเรียน
  • มีความก้าวร้าวขึ้น
  • มีของเล่นหรืออุปกรณ์การเรียนใหม่ ๆ โดยไม่รู้ที่มา
  • ชอบว่าคนอื่น
  • ทำผิดแต่ไม่ยอมรับผิด
  • ชอบแข่งขัน อยากเป็นที่ยอมรับ

ช่วยลูกได้อย่างไร ถ้ารู้ว่าลูกโดน บูลลี่

  • รีบคุยกับลูก หากเด็กพูดปัญหาออกมา ให้รีบจัดการปรึกษากับทางโรงเรียนอย่างจริงจัง ว่าโรงเรียนจะมีแนวทางแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร
  • ทำให้ลูกภูมิใจในตัวเอง ส่งเสริมให้ลูกดูแลตัวเองให้เป็น เช่น ให้รู้จักรักษาความสะอาด กินอาหารมีประโยชน์ ใช้เวลาว่างให้ถูก เช่น ออกกำลังกาย รู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ หากลูกได้รับการชื่นชมจากคนอื่น จะสร้างความมั่นใจให้ลูก เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ถูกบุลลี่ ลูกจะมีได้มีความเชื่อมั่นเป็นภูมิต้านทาน
  • วิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ที่ลูกอาจถูกแกล้ง เช่น อาจมองปัญหาเรื่องถูกข่มเหง รีดไถเงินหรือถูกแย่งของ และหาทางป้องกันแต่เนิ่นๆ เช่น ไม่ให้เงินลูกไปเยอะ ไม่ให้ลูกเอาเกม หนังสือการ์ตูน หรือสิ่งของที่มีค่าใด ๆ ไปโรงเรียน
  • สอนให้ลูกมีเพื่อน สอนให้ลูกอยู่กับเพื่อน ป้องกันความเสี่ยงตกเป็นเป้าสายตา แล้วโดยรังแก ข่มเหง จากคนอื่น และสอนลูกอยู่เสมอว่าถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล หรือโดนแกล้ง ให้รีบบอกผู้ใหญ่ทุกครั้ง
  • สอนให้ลูกกล้าหาญ สอนให้ลูกไม่แสดงออกถึงความกลัวเมื่อโดนแกล้ง หรือถูกยั่ว เพราะจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้ใจ และคอยแกล้งอยู่ตลอด และอาจเพิ่มการแกล้งที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น สอนให้ลูกเห็นว่าเราไม่ได้อ่อนแอ สอนให้มีความมั่นใจที่จะกล้าบอกอีกฝ่ายให้หยุดกระทำด้วยอาการนิ่งเฉย ไม่สนใจ สอนลูกไม่ให้ใช้อารมณ์หรือกำลังตอบโต้เด็ดขาด  เพราอาจจะทำให้สถานการณ์บานปลายและแย่ลงได้
  • ปรึกษากับพ่อแม่ของเด็กอีกฝ่าย ทั้งนี้ให้ผู้ใหญ่รู้ปัญหาและหาแนวทางจัดการร่วมกัน เพราะก็จะได้ช่วยกันทำให้เด็กไม่กลายเป็นทั้งคนที่ชอบกลั่นแกล้ง และเป็นเด็กไม่อ่อนแอที่จะโดนแกล้งอยู่เรื่อยๆ
คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?