วัคซีน (Vaccine) คือ สารชนิดหนึ่งที่ฉีดเข้าร่างกาย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ส่วนใหญ่สกัดมาจากเชื้อที่ตายแล้วหรือเชื้อที่ทำให้อ่อนแอลง เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกาย ก็จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับโรคนั้นๆได้
การสร้างภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีน เป็นการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่ามากที่สุด ช่วยป้องกันโรคติดต่อร้ายแรงที่อันตรายถึงชีวิต ให้คนทุกเชื้อชาติ ทุกเพศวัยห่างไกลจากโรค
เด็กๆ ทุกคนควรได้รับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด เพื่อช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานและสร้างเกราะป้องกันโรคภัยต่างๆ โดยเฉพาะปัจจุบันที่เทคโนโลยีทางการแพทย์เจริญก้าวหน้า สามารถคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคสำหรับเด็กได้ครอบคลุม ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษากุมารแพทย์ถึงวัคซีนพื้นฐานหรือวัคซีนจำเป็นแต่ละชนิดที่ควรได้รับตามวัยของลูกน้อย
ช่วงอายุ | วัคซีน | % ป้องกัน |
แรกเกิด | วัคซีนป้องกันวัณโรค | >50 |
วัคซีนป้องกันตับอักเสบบี ครั้งที่ 1 | 70-95 | |
เดือนที่ 1 | วัคซีนป้องกันตับอักเสบบี ครั้งที่ 2 | 90-95 |
เดือนที่ 2 | วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ และ Hib ครั้งที่ 1 | คอตีบ 97-100,ไอกรน 71-85,บาดทะยัก 100, โปลิโอ 99-100,Hib 96-97.9 |
วัคซีนป้องกันไวรัสโรต้า ต้นเหตุอุจจาระร่วงรุนแรง ครั้งที่ 1 | 98 | |
วัคซีนไอพีดี ครั้งที่ 1 | 56-81 | |
เดือนที่ 4 | วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ และ Hib ครั้งที่ 2 | |
วัคซีนป้องกันไวรัสโรต้า ต้นเหตุอุจจาระร่วงรุนแรง ครั้งที่ 2 | ||
วัคซีนไอพีดี ครั้งที่ 2 | ||
เดือนที่ 6 | วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ และ Hib ครั้งที่ 3 | |
วัคซีนป้องกันไวรัสโรต้า ต้นเหตุอุจจาระร่วงรุนแรง ครั้งที่ 3 | ||
วัคซีนไอพีดี ครั้งที่ 3 | 86.9-87.3 | |
วัคซีนป้องกันตับอักเสบบี ครั้งที่ 3 | ||
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (ปีแรก 2 เข็มห่างกัน 1 เดือน จากนั้นปีละ 1 ครั้ง) | 70-90 | |
เดือนที่ 9-12 | วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบ JE ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ห่างกัน 3 เดือน – 1 ปี | 95-96 |
เดือนที่ 12 – 15 | วัคซีนป้องกันหัด คางทูม หัดเยอรมัน ครั้งที่ 1 | หัด 98, คางทูม 66-95, หัดเยอรมัน >95 |
> เดือนที่ 12 | วัคซีนป้องกันสุกใส ครั้งที่ 1 | |
วัคซีนไอพีดี ครั้งที่ 4 | ||
วัคซีนป้องกันตับอักเสบเอ 2 เข็ม ฉีด ห่างกัน 6-12 เดือน | 94-100 | |
เดือนที่ 18 | วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก และ Hib ครั้งที่ 4 | |
> 2.5 ปี | วัคซีนป้องกันหัด คางทูม หัดเยอรมัน ครั้งที่ 2 | |
วัคซีนป้องกันสุกใส ครั้งที่ 2 | >90 | |
4 – 6 ปี | วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอครั้งที่ 5 | 92-100 |
9 ปี | วัคซีนป้องกันหูดบริเวณอวัยวะเพศชาย | 90.41 |
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก | 98-100 | |
11 – 12 ปี | วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก สำหรับเด็กโต | 85-100 |
ช่วงอายุ | วัคซีน | % ป้องกัน |
19 – 26 ปี | วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปี | 50-70 |
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ( ถ้าตรวจภูมิคุ้มกันและไม่พบ) | 80-100 | |
วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ทุก 10 ปี | คอตีบ 95 ,ไอกรน 70,บาดทะยัก 100 | |
วัคซีนป้องกันสุกใส ( ถ้าตรวจภูมิคุ้มกันและไม่พบ) | 80-100 | |
วัคซีนป้องกันหัด คางทูม หัดเยอรมัน 2 เข็ม | หัด 93, คางทูม 78, หัดเยอรมัน 97 | |
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ ( ถ้าตรวจภูมิคุ้มกันและไม่พบ) | 85 | |
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก แนะนำอายุ < 26ปี | >90 | |
27-64 ปี | วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปี | |
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ( ถ้าตรวจภูมิคุ้มกันและไม่พบ) | ||
วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ทุก 10 ปี | ||
วัคซีนป้องกันสุกใส ( ถ้าตรวจภูมิคุ้มกันและไม่พบ) | ||
วัคซีนป้องกันหัด คางทูม หัดเยอรมัน อายุ ≤ 40 ปี | ||
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ ( ถ้าตรวจภูมิคุ้มกันและไม่พบ) | ||
วัคซีนป้องกันงูสวัด | 70 (ในอายุ 50-59ปี) , 64(ในอายุ 60-69ปี) | |
วัคซีนป้องกันปอดอักเสบรุนแรง | 75 (Invasive Pneumococcal Disease) , 45 (Pneumococcal Disease) | |
> 65 ปี | วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปี | |
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ( ถ้าตรวจภูมิคุ้มกันและไม่พบ) | ||
วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ทุก 10 ปี | ||
วัคซีนป้องกันสุกใส ( ถ้าตรวจภูมิคุ้มกันและไม่พบ) | ||
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ ( ถ้าตรวจภูมิคุ้มกันและไม่พบ) | ||
วัคซีนป้องกันงูสวัด | 64 (ในอายุ 60-69ปี) | |
วัคซีนป้องกันปอดอักเสบรุนแรง |
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เริ่มฉีดได้หลังอายุ 6 เดือน เป็นต้นไป
โดยในเด็กที่อายุน้อยกว่า 9 ปีที่รับวัคซีนนี้เป็นปีแรก ต้องฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน
หลังจากนั้นให้ฉีดเป็นประจำทุกปี ปีละครั้งไปตลอดชีวิต
สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีภูมิต้านทานต่ำ รวมไปถึง นักท่องเที่ยว และผู้ที่จะเดินทางไปประกอบกิจกรรมทางศาสนา ซึ่งมีความเสี่ยงต่อโรคระบาดเมื่อต้องไปในที่แออัด
วัคซีนสำหรับหญิงตั้งครรภ์
คำแนะนำ | วัคซีนแนะนำ | อายุครรภ์ที่พิจารณาฉีด |
ช่วงตั้งครรภ์ | วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (Tdap) | |
วัคซีนป้องกันคอตีบ บาดทะยัก (Td) | ฉีด 1-2 เข็มในไตรมาสที่ 2 และ 3 หรือฉีด 3 เข็ม หากไม่เคยได้รับมาก่อน | |
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ | ฉีด 1-2 เข็มในไตรมาสที่ 2 และ 3 | |
หลังคลอด | วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (Tdap) | |
สำหรับคนในบ้านที่มีเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี | วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (Tdap) |
ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัว ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน
วัคซีนสำหรับผู้เป็นโรคเบาหวาน
วัคซีนแนะนำ | คำแนะนำ | ประโยชน์ที่ได้รับ |
วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (Tdap) | ฉีด 1 ครั้งแทนวัคซีนป้องกันบาดทะยักเพียงอย่างเดียว และฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี ดัวยวัคซีนป้องกันคอตีบ บาดทะยัก (Td) | ป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก |
วัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส (IPD) | ให้ฉีดวัคซีนนี้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป โดยแนะนำให้รับวัคซีน IPD ทั้งชนิด 13 และ 23 สายพันธุ์ เพียงชนิดละ 1 ครั้ง | ป้องกันโรคปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด |
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ | ฉีด 1 เข็มทุกปี | ป้องกันไข้หวัดใหญ่ |
วัคซีนป้องกันงูสวัด | ฉีด 1 เข็ม ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป | ป้องกันงูสวัด |
วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี | หากตรวจไม่พบภูมิ ควรฉีด 3 เข็ม ห่างกันที่ 0,1,6 เดือน | ป้องกันไวรัสตับอักเสบบี |
วัคซีนสำหรับผู้เป็นโรคหัวใจ
วัคซีนแนะนำ | คำแนะนำ | ประโยชน์ที่ได้รับ |
วัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (Tdap) | ฉีด 1 ครั้งแทนวัคซีนป้องกันบาดทะยักเพียงอย่างเดียว และฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี ดัวยวัคซีนป้องกันคอตีบ บาดทะยัก (Td) | ป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก |
วัคซีนป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส (IPD) | ให้ฉีดวัคซีนนี้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป โดยแนะนำให้รับวัคซีน IPD ทั้งชนิด 13 และ 23 สายพันธุ์ เพียงชนิดละ 1 ครั้ง | ป้องกันโรคปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด |
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ | ฉีด 1 เข็มทุกปี | ป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น หัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง |
วัคซีนป้องกันงูสวัด | ฉีด 1 เข็ม ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป | ป้องกันงูสวัด |
ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัว ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน
ในการเดินทางท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศเรามีการวางแผนในเรื่องต่างๆ แต่มียังมีอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือการวางแผนฉีดวัคซีน โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงต่อโรคระบาด กลุ่มเสี่ยงที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่นผู้สูงวัยหรือเด็ก
การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคล่วงหน้าถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรปรึกษาแพทย์อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ก่อนการเดินทาง เพื่อให้ร่างกายมีเวลาในการสร้างภูมิคุ้มกัน วัคซีนบางชนิดอาจต้องได้รับการฉีดหลายครั้ง
วัคซีนแนะนำ | วิธีฉีด | คำแนะนำ |
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ | ฉีด 1 เข็มทุกปี | |
วัคซีนป้องกันคอตีบ บาดทะยัก | กระตุ้น 1 เข็มด้วย Td ทุก 10 ปี (เช่นอายุ 20, 30, 40 ปี) | |
วัคซีนป้องกันไข้กาฬหลังแอ่น | ฉีด 1 เข็มก่อนเข้าประเทศอย่างน้อย 10 วัน และไม่เกิน 2 ปี | พิจารณาให้ในผู้ที่จะเดินทางไป หรืออยู่อาศัยในทวีปแอฟริกาทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา (Meningitis belt) ประเทศสหรัฐอเมริกา |
วัคซีนป้องกันไข้เหลือง | ฉีด 1 เข็มก่อนการเดินทางอย่างน้อย 10 วัน | พิจารณาให้ในผู้ที่จะเดินทางไปทวีปแอฟริกา หรืออเมริกาใต้ ในพื้นที่ที่เป็นถิ่นระบาดของไข้เหลือง |
9 เรื่องควรรู้ก่อนฉีดวัคซีน
อาการข้างเคียง และการดูแลหลังจากได้รับวัคซีน
Total Health Solution เราคัดสรรการดูแลที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ เพราะเราไม่อยากให้ใครป่วย (คลิกอ่านเพิ่มเติม)
SPECIALIST
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่