การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญต่อการมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่ดี ช่วยพัฒนาระบบปอดและระบบไหลเวียนเลือดให้แข็งแรง แต่เมื่อมีการสัมผัสมลพิษทางอากาศในขณะออกกำลังกาย ผลลัพธ์ต่อสุขภาพอาจเป็นไปในทางตรงกันข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผู้นั้นมีโรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจหรือโรคระบบไหลเวียนเลือดอื่น ๆ
แม้ว่าจะไม่ได้ออกกำลังกาย การสัมผัสกับมลพิษทางอากาศก็สามารถก่อให้เกิดปัญหากับสุขภาพ แต่เมื่อมีมลพิษทางอากาศในขณะที่กำลังออกกำลังกาย ปัญหาต่อสุขภาพอาจมีความรุนแรง “เพิ่มขึ้น” ได้
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผลกระทบต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นนี้ อาจเป็นไปได้ว่า ในช่วงกิจกรรมการออกกำลังกาย เรามักจะมีการหายใจที่ลึกขึ้น สูดอากาศเข้าไปถี่มากขึ้น และมีแนวโน้มที่หลายท่านจะหายใจผ่านทางปาก หากออกกำลังกายในระดับที่ค่อนข้างหนัก ซึ่งอาจทำให้ได้รับมลพิษทางอากาศเข้าไปเพิ่ม (ในกรณีหลัง อากาศที่เข้าสู่ปอดจะไม่ได้ผ่านระบบกรองเหมือนการหายใจปกติทางจมูก)
และหากท่านใดมีโรคประจำตัว โดยเฉพาะกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจหรือระบบไหลเวียนเลือดอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลท่าน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพนะครับ
สิ่งที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องมลพิษทางอากาศและการออกกำลังกาย คือ เรื่องระดับของมลพิษ และระยะเวลาที่มีการสัมผัส แต่ด้วยเพราะการออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่ชัดเจน จึงไม่แนะนำให้เลิกออกกำลังกายกลางแจ้งทั้งหมด (ยกเว้นกรณีมีข้อแนะนำจากแพทย์ที่ดูแลท่านอยู่) แต่ควรจะหาวิถีทางเพื่อให้ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจากมลพิษทางอากาศขณะออกกำลังกายให้น้อยที่สุด เช่น
ตรวจสอบระดับมลพิษทางอากาศจากแหล่งข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น aqmthai.com ของกรมควบคุมมลพิษ หรือจากทางหนังสือพิมพ์บางฉบับ เลือกเวลาออกกำลังกายที่เหมาะสม แนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายใกล้ถนนสัญจรในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศสูง ยกตัวอย่างเช่น ระดับมลพิษมีแนวโน้มที่จะสูงที่สุดและจะลดลงตามระยะห่างจากถนน หรือสภาพแวดล้อมในเมืองมักมีระดับมลพิษสูงกว่าชานเมือง อาจสลับจากการออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นการออกกำลังกายในร่มเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่คุณภาพอากาศไม่ดี
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่