โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคสมองเสื่อมประเภทหนึ่งที่ส่งผลต่อความจำ การคิด และพฤติกรรม หากมีอาการรุนแรงจะส่งผลต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน แม้อายุจะเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งส่วนใหญ่มักพบในผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นอัลไซเมอร์เมื่ออายุมากขึ้น นอกจากนี้ปัจจุบันยังพบผู้ป่วยอัลไซเมอร์ในช่วงอายุน้อย หรือเรียกว่าโรคอัลไซเมอร์ชนิดเกิดเร็ว (early-onset Alzheimer’s) ซึ่งเป็นโรคอัลไซเมอร์ที่เกิดในช่วงอายุ 30-65 ปี บางรายอาจมีสาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงของยีนและมีการส่งต่อทางพันธุกรรม
โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคทางสมอง ส่งผลให้สูญเสียความทรงจำที่รบกวนการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ความจำ การคิด และทักษะการใช้เหตุผลลดลงอย่างช้าๆ สามารถสังเกตสัญญาณเตือนได้ดังนี้
สมองมีการเปลี่ยนแปลงเมื่ออายุมากขึ้น เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของร่างกาย การเปลี่ยนแปลงของโรคอัลไซเมอร์มักเริ่มต้นในส่วนของสมองที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ เมื่อโรคอัลไซเมอร์ลุกลาม จะทำให้เกิดอาการรุนแรงมากขึ้น รวมถึงอาการงุนงง อารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดความสับสนมากขึ้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ เวลา และสถานที่ ความสงสัยที่ไม่มีมูลเกี่ยวกับครอบครัว เพื่อน และคนรอบข้าง สูญเสียความทรงจำและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการพูด การกลืน และการเดิน
อาการโรคอัลไซเมอร์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ดังนี้
โดยทั่วไปโรคอัลไซเมอร์จะดำเนินไปอย่างช้าๆ ใน 3 ระยะ ดังนี้
โรคอัลไซเมอร์ เป็นโรคทางระบบสมอง ที่เกิดจากความเสื่อมตามวัย หรือมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเนื้อเยื่อสมอง ปัจจุบันมีการศึกษาพบว่าการเปลี่ยนแปลงมีลักษณะแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งตรวจพบว่าระหว่างเซลล์สมองของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์มีการสะสมของโปรตีนเบต้า-อะไมลอยด์ (beta-amyloid) และโปรตีนเทา (tau tangles) จนทำให้การเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมองเสียไป ส่งผลให้เซลล์สมองสูญเสียการทำงาน เมื่อถึงระยะรุนแรงเซลล์ประสาทตายและสูญเสียเนื้อเยื่อทั่วสมอง เมื่อเวลาผ่านไป สมองจะหดตัวลงอย่างมาก ส่งผลต่อการทำงานเกือบทั้งหมด
อาการเริ่มต้นของอัลไซเมอร์คือภาวะหลงลืม หากปล่อยไว้อาจมีอาการมากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน กรณีที่อาการรุนแรงผู้ป่วยอาจไม่สามารถช่วยเหลือตนเองในการทำกิจวัตรประจำวันได้ ดังนั้นจำเป็นจะต้องมีผู้ดูแลช่วยเหลือ
นักวิจัยเชื่อว่าปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างมีบทบาทในการทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมอื่นๆ รวมถึงพันธุกรรม พฤติกรรม และนิสัย ดังนี้
การเปลี่ยนแปลงในสมองที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์เริ่มต้นหลายปีก่อนที่จะมีสัญญาณของโรค จากนั้นอาการของโรคอัลไซเมอร์จะแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป โดยการดำเนินของโรคจะแตกต่างกันไป โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์จะมีชีวิตอยู่ได้ 4-8 ปีหลังการวินิจฉัย แต่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 20 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยการบำบัดและการตรวจพบได้เร็ว
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายขาด แต่มียาและแนวทางการรักษา ที่ช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง บรรเทาอาการ และปรับปรุงคุณภาพชีวิต รวมถึงการตรวจเลือดเพื่อทำนายโรค ซึ่งปัจจุบันสามารถรู้ล่วงหน้า 5-10 ปี เพื่อป้องกันการเกิดภาวะสมองเสื่อมในผู้ที่ยังไม่มีอาการ ช่วยตรวจค้นหาก่อนที่จะเกิดภาวะสมองเสื่อมในอนาคต และชะลอการดำเนินโรคของภาวะสมองเสื่อมที่เกิดขึ้นแล้วให้ช้าลงสามารถรู้ผลภายใน 90 วัน ผลวิเคราะห์แม่นยำถึง 92%
การตรวจเพื่อทำนายโรคอัลไซเมอร์แฝง เหมาะกับบุคคล ดังนี้
จะใช้วิธีการตรวจเลือดเพื่อหาระดับโปรตีน “ฟอสโฟ-ทาว” ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคอัลไซเมอร์ และยีน (APOE) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคอัลไซเมอร์ รวมถึงระดับโปรตีน “นิวโรฟิลาเมนท์” (Neurofilament protein) บอกความเสียหายของสมอง เพื่อวินิจฉัยว่าเป็นอัลไซเมอร์ สมองเสื่อมแฝง หรือ กำลังมีการทำลายเนื้อสมองอยู่ และ ระดับโปรตีน “จีเอฟเอพ” (Glial fibrillary acidic protein) บ่งบอกถึงการอักเสบของสมอง มักพบร่วมกับโรคอัลไซเมอร์ในระยะแฝง
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่