โรคติดต่อในเด็ก และ โรคติดเชื้อที่เด็ก ๆ ต้องระวัง

โรคติดต่อในเด็ก และ โรคติดเชื้อที่เด็ก ๆ ต้องระวัง

HIGHLIGHTS:

  • โนโรไวรัส (Norovirus) เป็นเชื้อไวรัสก่อให้เกิดการอักเสบของกระเพาะอาหาร สามารถทนทานต่อความร้อน น้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ รวมทั้งแอลกอฮอล์ไม่สามารถที่จะฆ่าเชื้อได้  ระบาดได้ง่ายในเวลาอันรวดเร็ว  มักติดต่อจากการปนเปื้อนในอาหาร และน้ำดื่ม สามารถเกิดการระบาดในเด็กได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว
  • การฉีดวัคซีนป้องกันโรค ตั้งแต่แรกเกิดตามหลักราชวิทยาลัยกุมาร รวมถึงวัคซีนเสริม จะช่วยให้เด็กๆ มีภูมิคุ้มกัน ไม่ติดโรคต่างๆ หรือหากติดเชื้อ อาการก็จะไม่รุนแรง ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลและเสียค่าใช้จ่ายสูง
  • วัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก ชนิดล่าสุด มีประสิทธิภาพในการป้องกันไข้เลือดออกจากทุกสายพันธุ์ ได้สูงถึง  80.2% และป้องกันอาการรุนแรงได้  90.4%  โดยฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน  สามารถฉีดได้ทั้งผู้ที่เคยและไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน 

หลังสถานการณ์โควิดและการล็อกดาวน์ที่ยาวนาน เมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ เด็ก ๆ กลับไปเรียนที่โรงเรียน การเปิดเทอมครั้งใหม่จึงทำให้โรคติดต่อในเด็กต่างๆ กลับมาระบาดเหมือนเดิม เมื่อมีกิจกรรมการรวมกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการไปโรงเรียน สวนสนุก หรือคาเฟ่ ทำให้เกิดการติดต่อของเชื้อโรคทางเดินหายใจ ไม่เว้นแม้กระทั่งโรคทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็น 

โรคติดต่อในเด็กที่พบบ่อย ได้แก่ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจและโรคติดเชื้อทางเดินอาหาร

  • โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คน ผ่านของเหลวที่ออกมาจากร่างกาย เช่น น้ำลายหรือเสมหะ จากการไอจามและทางลมหายใจ เชื้อโรคจะยิ่งเติบโตและแพร่กระจายได้ดีในช่วงที่มีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนและช่วงหน้าหนาว 
  • โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ที่พบบ่อยที่สุดเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส   ส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสโดยตรงหรือทางอ้อมจากการปนเปื้อนของเชื้อโรคในอาหารและน้ำ และมักจะเกิดการติดต่อกันในช่วงเปิดเรียน เพราะเด็กๆ มักจะกินข้าว ดื่มน้ำ ด้วยกัน มีปฏิสัมพันธ์กันโดยไม่ได้ระมัดระวัง 

โรคไข้เลือดออกในเด็ก (dengue fever)

ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก (Influenza)

โรคติดเชื้ออาร์เอสวี (RSV)

โรคมือ เท้า ปาก (Hand Foot and Mouth Disease : HFMD)

โนโรไวรัส (Norovirus)

โรคเฮอร์แปงไจนา (Herpangina)

โรคฝีดาษลิง (Monkeypox)

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเปิดเทอมไปโรงเรียน หยุดอยู่บ้าน หรือออกไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ เด็กๆ ควรได้รับการดูแลสุขภาพร่างกาย ทั้งด้านความสะอาด และเคร่งครัดด้านสุขลักษณะให้ครบถ้วนสมบูรณ์ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ 
รวมถึงสร้างภูมิต้านทานให้ตัวเองแข็งแกร่ง ฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ให้ครบ ไม่ว่าจะเป็น

เพื่อที่จะสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย พร้อมกันนี้กินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ พักผ่อนนอนหลับเพียงพอ 8 ชั่วโมง ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมอย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน และเมื่อร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังจะต่อยอดให้เด็กๆ มีพัฒนาการการเจริญเติบโต เป็นหนุ่มเป็นสาวสมวัย อีกด้วย 

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?