กระดูกสันหลังคด (Scoliosis) คือภาวะที่กระดูกสันหลังมีการเบี้ยวเอียงไปทางด้านข้างแทนที่จะเป็นเส้นตรง ซึ่งในทางการแพทย์นั้น กระดูกสันหลังต้องมีองศาที่คดเอียงมากกว่า 10 องศา จึงจะนับว่าเป็นโรคกระดูกสันหลังคด
โดยโรคกระดูกสันหลังคดสามารถแบ่งใหญ่ ๆ ออกได้ 3 รูปแบบ ได้แก่
อาการของผู้ที่มีกระดูกสันหลังคดนั้นจะรุนแรงขึ้นตามระดับองศาที่คดเอียง กรณีที่มีการคดเอียงน้อย คนไข้อาจมีเพียงอาการปวดหลังเล็กน้อย และมีบุคลิกที่ดูไม่สวยงาม แต่กรณีที่กระดูกสันหลังมีการคดเอียงมาก อาจส่งผลต่อระบบอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น
การรักษากระดูกสันหลังคดมีจุดประสงค์ 3 อย่างคือ
หากคนไข้มีมุมองศาการคดของกระดูกสันหลังที่ค่อนข้างน้อย ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ต้องคอยสังเกตอาการอยู่เรื่อย ๆ และอาจใช้เสื้อเกราะพยุงหลัง (Brace) ร่วมกับการกายภาพบำบัด เพื่อช่วยลดโอกาสที่กระดูกสันหลังจะคดเพิ่ม แต่ถ้ากระดูกสันหลังเริ่มมีองศาการคดที่มากขึ้น จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหรือส่งผลต่อสุขภาพ อาจต้องพิจารณาการรักษาด้วยการผ่าตัดต่อไป
การผ่าตัดกระดูกสันหลังคดเป็นวิธีแก้ไขปัญหากระดูกสันหลังคดเอียง ด้วยการใส่โลหะดามที่กระดูกสันหลังเพื่อจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ลดโอกาสการคดเอียงเพิ่ม และลดปัญหาแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากโรคกระดูกสันหลังคดได้ โดยการผ่าตัดกระดูกสันหลังคดมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ
โดยส่วนมากแพทย์จะพิจารณาการผ่าตัดกระดูกสันหลังคดให้กับคนไข้เด็กที่กระดูกมีการคดเอียงมากกว่า 40 องศาขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับคดเอียงที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และมีแนวโน้มที่จะสามารถคดเอียงได้มากขึ้นตามการเจริญเติบโต
นอกจากนี้ แพทย์จะพิจารณาการผ่าตัดโดยดูจากอายุร่วมด้วย หากคนไข้เด็กมีอายุต่ำกว่า 10 ปี แต่มีการคดเอียงมากกว่า 30-40 องศาก็จะแนะนำให้ทำการผ่าตัดแก้ไขกระดูกสันหลังคดแบบไม่เชื่อมกระดูก แต่ถ้าหากเป็นคนไข้เด็กโตที่กระดูกหยุดการเจริญเติบโตแล้ว กระดูกมีมุมองศาคดเอียงไม่เกิน 30-40 องศา และไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่นร่วม ก็อาจพิจารณาไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดกระดูกสันหลังคดได้
5.1. ความเสี่ยงในการผ่าตัดกระดูกสันหลังคด ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ
ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีผ่าตัดกระดูกสันหลัง เพื่อรักษากระดูกสันหลังคดนั้น ควรที่จะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากการผ่าตัดกระดูกสันหลังเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูง คนไข้เด็กจะอยู่ภายใต้การดมยาสลบนาน 4-7 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีการเปิดแผลที่กว้างมาก ทำให้อาจเสียเลือดมากและมีโอกาสติดเชื้อได้ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่อาจเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต และอาจร้ายแรงถึงชีวิตได้
เมื่อแพทย์พิจารณาแล้วว่าเด็กสมควรเข้ารับการผ่าตัดกระดูกสันหลัง แพทย์เจ้าของไข้จะอธิบายถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการเสียเลือดมาก การติดเชื้อ หรือความผิดพลาดขณะผ่าตัดไปโดนเส้นประสาท แต่ในปัจจุบันนี้มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ช่วยให้การผ่าตัดให้ปลอดภัยมากขึ้น เช่น navigation หรือ robotic system เป็นต้น ความเสี่ยงเหล่านี้จึงลดต่ำลงไปด้วย
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดกระดูกสันหลังคด แพทย์จะนัดเข้ามาตรวจสุขภาพของเด็ก ว่ามีความพร้อมต่อการผ่าตัดหรือไม่ เช่น
ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการตรวจสุขภาพ จะนำไปวางแผนการผ่าตัดรักษากระดูกสันหลังคดต่อไป
หลังจากที่เด็กได้รับการเตรียมความพร้อมสำหรับการผ่าตัดทั้งทางร่ายกายและจิตใจแล้ว เมื่อถึงเวลาผ่าตัด วิสัญญีแพทย์จะให้เด็กดมยาสลบ ก่อนที่ศัลยแพทย์จะเริ่มการผ่าตัด ซึ่งเวลาที่ใช้ในการผ่าตัดจะขึ้นอยู่กับความยากและความซับซ้อนของกระดูกสันหลังคนไข้แต่ละคน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง
เมื่อผ่าตัดเสร็จ คนไข้เด็กจะถูกพาตัวไปที่ห้อง ICU สำหรับผู้ป่วยเด็ก หรือ Pediatric Intensive Care Unit (PICU) เพื่อสังเกตอาการเบื้องต้นก่อนที่จะพากลับห้องพักผู้ป่วย โดยหลังจากการผ่าตัดกระดูกสันหลังคดคนไข้เด็กจะต้องนอนโรงพยาบาลประมาณ 7-10 วัน
การผ่าตัดกระดูกสันหลังเป็นการผ่าตัดใหญ่ เพื่อให้คนไข้เด็กได้รับการดูแลหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิด ที่โรงพยาบาลเด็กสมิติเวชมีห้อง PICU (Pediatric Intensive Care Unit) หรือห้องสังเกตอาการในหอผู้ป่วยเด็กวิกฤตโดยเฉพาะ
ดูแลโดยทีมกุมารแพทย์เวชบำบัดร่วมกับทีมกุมารแพทย์สหสาขาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกุมารแพทย์โรคติดเชื้อ โรคระบบหัวใจ ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ระบบสมองและประสาท โรคไต รวมถึงโรคเลือด ที่คอยดูแลคนไข้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ และเพื่อให้คนไข้เด็กสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติต่อไป
หลังจากผ่าตัดกระดูกสันหลัง คนไข้เด็กจะยังคงต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลต่อประมาณ 7-10 วัน ซึ่งในช่วงหนึ่งถึงสองวันแรก เด็กอาจมีอาการเจ็บปวดรุนแรงจากแผลผ่าตัดกระดูกสันหลังคด โดยแพทย์จะมีการให้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการเป็นระยะ นอกจากนี้จะมีการต่อสายระบายเลือดเสียที่หลัง ต่อท่อปัสสาวะ และกรณีที่คนไข้เสียเลือดมากก็จะมีการให้เลือดเพิ่มด้วย
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 3-4 หลังผ่าตัดกระดูกสันหลังคด หากคนไข้เด็กสามารถลุกได้แล้ว แพทย์จะให้คนไข้เริ่มฝึกเดินพร้อมกับดึงสายปัสสาวะออก เพื่อให้เด็กสามารถทำธุระส่วนตัวด้วยตนเองได้
เมื่อแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว อาจมีการกำหนดให้คนไข้เด็กใส่เกราะอ่อนพยุงหลังในช่วง 3-6 เดือนแรกเพื่อช่วยในการทรงตัว และมีนัดเข้ามาติดตามอาการในช่วง 1-2 อาทิตย์แรกเพื่อดูแผลผ่าตัด จากนั้นจะค่อย ๆ เพิ่มระยะห่างระหว่างนัดมากขึ้น เช่น ทุก 1 เดือน ทุก 3 เดือน ทุก 6 เดือน ทุก 1 ปี ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์เจ้าของไข้
หลังจากรับการรักษาด้วยการผ่าตัดกระดูกสันหลังคดแล้ว เด็กจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ควรระมัดระวัง กีฬาที่มีการกระทบกระทั่งรุนแรง เช่น การเล่นกีฬาผาดโผน เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุที่กระดูกสันหลัง อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้รุนแรงกว่าบุคคลทั่วไปได้
9.1. การผ่าตัดกระดูกสันหลังคดอันตรายไหม?
การผ่าตัดทุกรูปแบบมีความเสี่ยงและความอันตราย แต่ด้วยเทคนิคการรักษาและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นในปัจจุบัน เช่น เทคโนโลยีต่าง ๆ มากมายเช่น navigation, intraoperative neurophysiological monitoring system (IONM) และอื่น ๆ ประกอบกับประสบการณ์ของแพทย์ผู้ชำนาญการ ที่มีประสบการณ์ผ่าตัดรักษาโรคกระดูกสันหลังคดมามากกว่า 25 ปี ทำให้มีความปลอดภัยในการผ่าตัดมากขึ้นและการพักฟื้นรวดเร็วขึ้น เพราะมีทีมที่ดูแลหลังผ่าตัดเป็นสหสาขาอย่างเป็นมืออาชีพ
9.2. ผ่าตัดกระดูกสันหลังคด จะต้องกลับมาผ่าตัดนำเหล็กออกไหม?
เหล็กที่ใช้ในการผ่าตัดกระดูกสันหลัง เป็นโลหะที่สามารถอยู่ในร่างกายมนุษย์ได้ตลอดชีวิต ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องผ่าตัดนำเหล็กออก ยกเว้นเป็นความต้องการของคนไข้เองที่ต้องการนำเหล็กออกจากร่างกาย
9.3. การผ่าตัดกระดูกสันหลังคด มีข้อเสียอย่างไร?
นอกจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นขณะผ่าตัดกระดูกสันหลังคดแล้ว การเชื่อมโลหะที่กระดูกสันหลังยังทำให้คนไข้ความยืดหยุ่นลดลงไป คนไข้จึงอาจมีการเคลื่อนไหวที่มีข้อจำกัดมากขึ้น เช่น ก้มเงยยากขึ้นเพราะหลังแข็ง เป็นต้น
กระดูกสันหลังคด เป็นภาวะที่กระดูกสันหลังคดเอียงผิดปกติ จนมีโอกาสที่กระดูกจะไปเบียดอวัยวะอื่นจนทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ นอกจากนี้กระดูกสันหลังคดยังทำให้โครงสร้างของร่างกายขาดความสมดุล รวมถึงส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจเนื่องจากสภาพร่างกายที่ผิดแปลกไปได้อีกด้วย ซึ่งหากกระดูกสันหลังมีอาการคดเอียงมาก แพทย์มักแนะนำให้เด็กเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขกระดูกสันหลังคด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และคืนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับเด็ก ๆ อีกครั้ง
เลือกผ่าตัดกระดูกสันหลังคดกับโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช ที่มีเทคโนโลยีการผ่าตัดชั้นสูงครบครัน มีห้องผ่าตัดมีที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง และมีทีมกุมารแพทย์เฉพาะทางในทุกสาขาอย่างครบครัน โดยมีศัลยแพทย์ สาขาออร์โธปิดิกส์ ที่มีประสบการณ์ผ่าตัดรักษาโรคกระดูกสันหลังคดมามากกว่า 25 ปี อีกทั้งยังมีหอผู้ป่วยเด็กวิกฤต หรือ Pediatric Intensive Care Unit (PICU) สำหรับการดูแลผู้ป่วยเด็กโดยเฉพาะอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่